วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน

         การทำงานไม่ว่างจะเป็นที่ไหนฮวงจุ้ยก็ย่อมมีผลต่อการทำงานบ้างไม่มากก็น้อย หลายคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็ขอให้คิดซะว่าอย่างน้อยก็เป็นการจัดโต๊ะทำงานให้สะอาด ดูน่าเชื่อถือ มีระเบียบแทนก็แล้วกัน
1. ตำแหน่งโต๊ะทำงานที่ดี ควรอยู่ทางด้านหลัง เพราะทางฮวงจุ้ยข้างหลังถือว่าข้างหลังหมายถึงความมั่นคง แต่ถ้านั่งหันหลังให้กระจกซึ่งเป็นวัตถุที่มีการสะท้อนอยู่ตลอดเวลา แสดงว่าหน้าที่การงานของคุณไม่แน่นอนแล้วและกระจกยังดูดพลักงานของผู้ที่มันสะท้อนอยู่ด้วย ดังนั้นเค้าถึงไม่ให้นอนแล้วให้กระจกหักเข้าหาคนเวลานอนนั่นเอง ทางแก้คือหามู่ลี่มาปิดทับบริเวณด้านหลังให้ทึบอยู่ตลอดเวลา หรือถ้ามีตู้ทึบอยู่ด้านหลังก็พอจะช่วยได้ แต่ถ้าจะให้ดี ควรนั่งหันหลังให้กำแพงและหารูปภาพมาติดไว้ตรงบริเวณด้านนี้ โดยเลือกที่มีความหนักแน่น เช่น ภูเขา ส่วนทิศทางตำแหน่งของการนั่งนั้น ถ้าเป็นห้องส่วนตัว ควรตั้งโต๊ะไว้ในลักษณะที่จะสามารถมองเห็นคนที่เข้ามาในห้องได้อย่างชัดเจน

2. พยายามหลีกเลี่ยงการตั้งโต๊ะทำงานตรงกับประตู เพราะจะถูกนินทาว่าร้ายเอาได้ และไม่ควรนั่งหลังลอยหรือนั่งหันหลังให้ประตู เพราะอาจถูกแทงข้างหลังจากเพื่อนร่วมงานได้ค่ะ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ควรหาฉากหรือต้นไม้มาคั้นระหว่างประตูหรือโต๊ะทำงาน หรือที่จริงเค้าคงอยากจะบอกว่านั่งแถวนั้นมันเวลามีคนเดินเข้าเดินออกมันรบกวนทำให้หนวกหูทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

3. ไม่ควรให้โต๊ะทำงานหันไปชนกับมุมเสา เพราะจะทำให้เจอแต่เรื่องไม่ค่อยดี ถ้าหลีกเลี่ยงได้ให้หาคริสตัลมาวางสะท้อนพลังงานด้านลบออกไป ที่จริงเพราะมันอับ มีฝุนตก และมองอะไรไม่ค่อยเห็นทำให้คิดอะไรไม่ค่อยออกนั่นเอง

4. หันโต๊ะทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าคุณต้องนั่งรวมกับคนอื่น ควรพยายามหันโต๊ะทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และหลีกเลี่ยงการหันหน้าโต๊ะเข้าหากัน เพราะเดี๋ยวจะคุยกันเพลินจนลืมทำงาน

5. แก้เคล็ดหากนั่งใต้คาน ถ้าใครที่นั่งใต้คานจะส่งผลให้คนๆ นั้นมีความเครียดสูง การงานไม่ราบรื่น หรือทำงานผิดพลาดได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยู่ในแผนกบัญชีหรือการเงิน อาจจะส่งผลเสียต่อองค์กรเป็นอย่างมาก ทางแก้ไขมีหลายแบบ แต่ที่ง่ายที่สุด คือการใช้คานให้เป็นประโยชน์ด้วยการแขวนนาฬิกา หรือติดหลอดไฟไว้ใต้คาน

6. วางของสูงที่มุมโต๊ะด้านซ้าย ที่ด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน เป็นตำแหน่งแห่งอำนาจในการทำงาน ให้วางของที่มีความสูงมากที่สุดเอาไว้มุมนี้ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชั้นวางเอกสารสูงๆ และควรที่จะมีต้นไม้เล็กๆ วางไว้ข้างจอคอมพิวเตอร์ จะเป็นต้นตะบองเพชร เฟิร์น เพื่อเป็นการลดความแรงของสนามแม่เหล็กจากจอคอมพิวเตอร์

7. ของที่ควรหลีกเลี่ยงบนโต๊ะทำงาน  ควรหลีกเลี่ยงของตกแต่งบนโต๊ะทำงาน หรือรูปภาพที่เป็นรูปสัตว์ในสิบสองปีนักกษัตร เช่น หนู งู ม้า ไก่ ลิง ฯลฯ เพราะสิ่งที่เราตั้งอาจกลายเป็นการชงปะทะกันเองกับปีเกิดของตัวเอง หรือผู้ที่มาติดต่อโดยไม่รู้ตัว ถ้าที่ดี (ทางแก้ไขแนะนำให้ตรวจสอบในตารางของคลังคู่มิตรปีเกิด)

8. ของที่เหมาะกับด้านขวาของโต๊ะ ซึ่งเป็นตำแหน่งของการประสานงาน ความราบรื่น ให้วางพวกข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีความสูงน้อยไว้ในส่วนนี้

9. เสริมพลังตรงด้านหลังของโต๊ะ หากมีชั้นหรือมีพื้นที่วางของได้ ให้หา "เต่าคริสตัล" มาวาง เพื่อเป็นการกระตุ้นพลังงานด้านการสนับสนุน และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

10. ดูดซับพลังงานตรงด้านหน้าของโต๊ะ ตรงนี้ถือเป็นจุดรับพลังงานต่างๆ ที่จะไหลเข้ามาสู่โต๊ะโดยตรง ให้หาแก้วน้ำใส่น้ำและหินเก๋ๆ มาวางประดับอะไร เพื่อดูดซับพลังงานที่ดี

แถมๆ รูปการวางโต๊ะทำงานในห้องที่ดี

อันนี้เป็นรูปตำแหน่งต่างๆของฮวงจุ้ยบนโต๊ะทำงาน



ขอบคุณที่มาจาก http://horoscope.kapook.com/view10368.html

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หางานราชการ สมัครงานรัฐวิสาหกิจ



     หลายๆคนพ่อแม่ก็คงอยากให้ลูกทำงานทำการดีๆ มีหลักมีฐาน สวัสดิการดี มั่นคง ซึ่งงานที่ได้แบบนี้ส่วนมากก็คงไม่พ้นงานราชการ หรืองานรัฐวิสาหกิจ แล้วงานราชการเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนมากก็จะคิดกันว่าเข้าไปแล้วสบายไม่ต้องทำงาน ต้องของบอกว่าเป็นเพียงบางที่เท่านั้น สมัยนี้ถ้าไม่ทำงานไม่มีผลงานก็อาจจะถูกไล่ออกได้ไม่ยาก แล้วข้อดีข้อเสียระหว่างเอกชนและราชการเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ลองมาดูเลย


ราชการ-รัฐวิสาหกิจ
เอกชน
รายได้
น้อย
สูง
มั่งคง
สูง
กลาง ต่ำ ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง
สวัสดิการ
ดีมาก
แล้วแต่บริษัท
ความเครียด
กลาง-ต่ำ
กลาง-สูง
ความเร่งรีบ
กลาง-ต่ำ
กลาง-สูง
งานต่อเงินเดือนที่ได้
เหมาะสม
น้อยไป
โอที
ได้เท่าที่ทำ
ได้บ้างไม่ได้บ้าง

การสอบเข้าล่ะ สมัยนี้ก็ใช้ข้อสอบทั่วไป ทั้ง  Aptitude  test ภาษาอังกฤษ (หลังๆเริ่มรีเควส TOEIC แทน ซึ่งเรทตั้งแต่ 450-600) แล้วก็วิชาเฉพาะ การเตรียมตัวก็ไม่ยากมากมาย ซ้อมโจทย์ซึ่งหาซื้อได้ที่ หน้าราม ประกอบกับหาข้อมูลเอง ฝึกความเร็วในการทำข้อสอบ และฝึกแนวโจทย์ไว้สำหรับสอบเยอะๆ เวลาทำข้อสอบจะได้ทำได้รวดเร็ว และผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะข้อสอบจะไม่ได้ยากมากมาย คนส่วนมากทำได้อยู่แล้ว แต่คนที่ทำคะแนนได้สูงที่สุดกลุ่มแรกๆ ถึงจะเป็นผู้มีโอกาสได้เข้ารับการสัมภาษณ์งาน
ก่อนเข้าสอบความเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
·         อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ทำหลายๆรอบคนกว่าจะจับเคล็ดของข้อสอบหรือหาวิธีลัดได้ อย่าคิดว่าข้อสอบง่ายไม่ต้องซ้อมไรมากไม่ต้องอ่านไรมากก็ได้ อันนี้เป็นความคิดที่จะทำให้ตกม้าตายง่ายๆ
·         หลังจากลองทำตัวอย่างข้อสอบดูก็จะพอทราบได้ว่าจะต้องอ่านหนังสือแนวไหน ตอนนี้ก็น่าจะสามารถ list เนื้อหาที่จะออกสอบได้
·         แบ่งเวลาอ่านหนังสือตามหัวข้อที่ list ไว้ ควรเผื่อเวลาไว้ที่ 1.5 เท่าของที่กะไว้ เผื่อทบทวนและเกิดมีเหตุฉุกเฉินทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือได้ โดยแบ่งเป็น
o   เนื้อหา
o   แบบฝึกหัด
o   ทบทวน
o   ทำสรุป
·         ทำสรุปเนื้อหา จะได้ทบทวนได้ง่าย รู้ว่าตรงไหนเข้าใจตรงไหนไม่เข้าใจตรงไหน จะได้ทบทวนถูกในเวลาสั้นๆ
·         ศึกษาเส้นทางไปสถานที่สอบ เผื่อเวลาไว้นั่งพัก ทำสมาธิซัก 1 ชั่วโมง หาห้องสอบ ปล่อยให้สมองโล่ง (โล่งเพื่อให้ทำข้อสอบได้ไม่ใช่เอาความรู้ออกจากสมองนะ)
·         ไม่ควรกินข้าวก่อนสอบในช่วง 1ชั่วโมง เพราะมันจะดึงพลังงานจากที่จะไปเลี้ยงสมองกลับลงไปเลี้ยงกระเพาะอาหารให้ย่อยอาหารแทนทางที่ดี ควรกินอะไรที่ไม่หนักท้องมาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม(ที่ไม่ซดน้ำเยอะมากเกินไป) ขนมปัง ดีที่สุดเท่าที่ทดลองมาคือ แวะ 7-11 หาพวกขนมปังกับไส้กรอกกิน แล้วค่อยเดินทางไป
·         ระหว่างทางจิบน้ำเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ซึ่งถ้ากินน้ำน้อยเกินไปเพราะกลัวจะอยากเข้าห้องน้ำก็ควรจะกินก่อนเข้าสอบซัก 30 นาที ให้มีเวลาดูดซึ่มและปล่อยออกมาก่อนสอบ หลายๆคนกลัวปวดอยากเข้าห้องน้ำจนไม่ยอมดื่มน้ำก่อนสอบ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ ร่างกายคนประกอบด้วยน้ำ 70% ถ้าไม่ดื่มน้ำแล้วสมองจะเอาอะไปใช้
·