คงมีหลายครั้งที่คุณนึก อยากเปลี่ยนงาน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากแต่การหางานที่ดีกว่าเดิม งานที่คุณทำแล้วมีความสุข หรืองานที่เหมาะกับคุณจริง ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยากจนเกินไป แค่ว่าต้องมีการเตรียมพร้อมกันเล็กน้อยก่อนจะเริ่มหางานใหม่ที่คุณต้องการ
หากคุณกำลังคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนงานอยู่ละก็ คุณควรแจกแจงดูก่อนว่าคุณมีปัญหาอะไรบ้างกับงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และควรดูให้มั่นใจว่าปัญหาเหล่านั้นคุณไม่สามาถที่จะแก้ไขได้จริง ๆ
ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก คุยกับเจ้านายดูก่อน นั่นก็เพราะว่า บริษัทที่มีความก้าวหน้ามักรู้ดีว่าพนักงานที่มีความมุงมั่นในชีวิตนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของบริษัท ซึ่งหมายถึงว่า เจ้านายของคุณอาจจะยอมอ่อนข้อมางอนง้อให้คุณอยู่ทำงานที่เดิมต่อไป หากว่าเขารู้ความต้องการที่แท้จริงของคุณ
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีหนทางไหนที่จะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขกับการทำงานที่นั่นแล้วละก็ คงถึงเวลาที่คุณจะมองหางานใหม่ และนี่คือ กลเม็ด 8 ข้อ ซึ่งจะช่วยให้การเปลี่ยนงานของคุณราบรื่น เหมือนกับโรยด้วยกลีบกุหลาบ
1. รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
วิเคราะห์เจาะลึกถึงความรู้ความสามารถ และทักษะทุกอย่างที่ตัวเองมี จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่าน ๆ มา เรื่องนี้นับว่าสำคัญมาก เพราะมันจะทำให้คุณรู้ว่างานแบบไหนที่จะเหมาะกับความเป็นคุณมากที่สุด เมื่อรู้แล้วก็คิดดูอีกทีว่า ทักษะไหนที่คุณมี และสามารถนำไปใช้ในงานใหม่ได้บ้าง หาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง
ทีนี้คุณจะได้รู้ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบแบบไหนกันแน่ที่ทำแล้วจะมีความสุขที่สุด
2. เตรียมใจกับเงินเดือนที่ (อาจจะ) ลดลง
บางครั้งการได้งานใหม่ที่จ่ายงามกว่าเดิมไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้คุณมีความสุขจริง ๆ เพราะมันอาจจะเป็นงานที่คุณไม่ได้รักที่จะทำสักเท่าไหร่
หากคุณเป็นหนึ่งในประเด็นที่เรากล่าวถึง เตรียมใจไว้กับการที่อาจจะต้องรับเงินเดือนต่ำลงกว่าเดิม หากงานที่คุณอยากทำจริง ๆ ไม่ได้ทำรายได้ดีนัก
ลองมองในอีกแง่ว่า การที่คุณมีความสุขกับการทำงานมีคุณค่ากว่าเงินทองเป็นไหน ๆ และยิ่งคุณมีความสุขเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในงาน ก็จะมีมากเท่านั้น ..แล้วอย่างนี้ เงินทองที่ว่าจะไปไหนเสีย
3. หาข้อมูลของสายงานที่คุณสนใจ
สมัยนี้แหล่งข้อมูลนั้นมีมากมายทั้งนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ แถมด้วยอินเทอร์เน็ต ที่จะช่วยให้คุณได้รู้รายละเอียดของสายงานที่สนใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้แน่ใจว่า งานที่คุณคิดว่าเหมาะกับคุณนั้น เป็นงานที่ใช่จริง ๆ หรือเปล่า
4. สร้างสายสัมพันธ์ในสายงาน
ลองนึกดูสิว่าในสายงานที่คุณสนใจ มีใครที่คุณเข้าไปคุยด้วยได้บ้าง เพื่อน, ญาติพี่น้อง, หรือคนที่เคยรู้จักจากหน้าที่การงาน ฯลฯ หาโอกาสไปพูดคุยกับคนเหล่านี้ ถามพวกเขาถึงความรู้ความสามารถที่ต้องมีในสายงาน หากไม่รู้จักใครเลย การเข้าร่วมในชมรม, สมาคม หรือแม้กระทั่งเว็บบอร์ดของคนในสายงานนั้น ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีที่อาจทำให้คุณได้พบปะสนิทสนมกับคนในแวดวง อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อให้มีแบ็คกราวน์ติดตัวพอน่าเชื่อถือ
5. หาทางเชื่อมสัมพันธ์กับบริษัทในฝัน
แม้ว่างานที่คุณสนใจอาจจะยังไม่ได้เปิดรับสมัคร ก็ไม่เสียหลาย หากคุณจะเริ่มทำความรู้จักกับบริษัทที่คุณหมายตาไว้ก่อน อาจจะด้วยวิธีเข้าไป สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่คุณสนใจ หรือกิจการของบริษัทนั้น ๆ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงยามที่คุณมาสมัครงานนั้น ๆ เข้าจริง ๆ พวกเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับคุณ และเชื่อมั่นว่าคุณสนใจในงานนั้นจริง ๆ และนั่นจะทำให้คุณมีภาษีดีกว่าผู้สมัครรายอื่น ๆ
6. สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานชั่วคราว หรือขอฝึกงานฟรี ๆ ไปเลย
วิธีนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับงานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงได้เรียนรู้ถึงการทำงานในองค์กรที่แตกต่างกันทั้งสไตล์การทำงาน, ขนาดของบริษัท และบรรยากาศในที่ทำงาน ซึ่งจะทำให้คุณรู้ได้ในทันทีว่างานแบบไหนที่เหมาะกับคุณ ก่อนที่จะถลำตัวเข้าไปเซ็นสัญญาทำงานแบบจริง ๆ จัง ๆ
7. สร้างเสริมในส่วนที่ขาด
ถามตัวเองดูอีกทีว่า มีสิ่งไหนที่คุณยังขาดสำหรับการทำงานในสายงานที่ชอบ หาวิธีชดเชยแก้ไขหากคุณคิดว่ามันจำเป็นจริง ๆ อาจจะด้วยการเรียนเพิ่มเติมในคอร์สเร่งรัดสั้น ๆ หรือฝึกฝนด้วยตนเองหากทำได้
8. เน้นจุดเด่นให้ต้องตากรรมการ
หากคุณรู้ว่าทักษะไหนในงานที่เจ้านายใหม่ของคุณมองหาอยู่ และเป็นสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วละก็ เน้นตรงจุดนั้นในจดหมายสมัครงานไปเลย
การที่คุณไม่มีประสบการณ์ในสายงานนั้น ๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีคุณสมบัติในการทำงานดังกล่าว ใครจะรู้ คุณสมบัติที่คุณมีในงานเดิม อาจจะช่วยเสริมส่งให้ทำงานใหม่ได้ดียิ่งขึ้นก็ได้
ดังนั้น ..ไม่ว่าคุณจะมีทักษะอะไร อย่าละเลยเพราะเห็นว่าไม่สำคัญ หรือไม่เกี่ยวกับสายงานเป็นอันขาด
ยังมีงานอีกมากมายรอคุณอยู่ข้างนอก เพียงแต่คุณต้องตั้งความหวังในสิ่งที่เป็นไปได้ และเชื่อว่าคุณจะทำได้จริง ๆ จำไว้ว่าคนเรามีทักษะ และพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าตัดสินใจเลือกสายงานตามคนอื่น ..แต่จงเลือกในสิ่งที่คุณเป็น แล้วคุณจะได้งานที่เหมาะกับคุณจริง ๆ
ที่มา:http://www.jobroads.net/article/ViewArticle.asp?ID=334
blog สำหรับคนหางานและทำงาน มีทั้ง เทคนิคหางาน สมัครงาน หางาน สัมภาษณ์งาน ต่อรองเงินเดือน เพิ่มเงินเดือน การตอบคำถามเวลาสัมภาษณ์ การทำงานให้ดี วางตัวในที่ทำงาน
วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แนวทางการตอบการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ
วันนี้เราจะมาดูกันว่าปกติแล้วเวลาสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ เค้าจะถามอะไรกันบ้าง พร้อมแนวทางการตอบคำถามคร่าๆกัน พร้อมกับเล่าประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติชาวอังกฤษสามคนกับคนไทยหนึ่งคนที่เป็นพนักงานฝ่าย HR ตอนแรกเค้าจะเมล์มานัดเวลากับเราพร้อมกฏการเข้าบริษัทแห่งนั้น หลังจากนั้นเราก็ดูว่าสะดวกไปไหม ถ้าไม่ติดก็เราก็ไปบริษัทตามเวลานั้นๆ ถ้าติดก็สามารถเมล์กลับไปบอกเค้าได้ พอถึงเวลาเค้าจะให้รอหน้าห้องสัมภาษณ์ จากนั้นเค้าจะเค้าไปกันก่อนพักนีงเพื่อเตรียมตัวและอ่านประวัติคร่าวๆ วันนี้จะนำเสนอแนวการตอบคำถามยิดฮิตในการสัมภาษณ์งานแบบสำหรับเป็นบทท่องจำถ้าเค้าให้เราพูดไปเรื่อยๆเกี่ยวกับตัวเอง
แปลไทยก็จะได้ความประมาณว่า
ฉับชื่อ"ชื่อนามสกุล" อายุ อายุปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย"มหาวิทยาลัย"ในสาขา"สาขาที่จบมา"ด้วยเกรด"เกรด" ในขณะเรียนมหาวิทยาลัย ฉันได้รู้จักและได้พยายามทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
ได้โอกาสเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตจริงๆ ได้ทำงานต่าง ๆ ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ
และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คงบรรยายได้ไม่หมด สำหรับคุณสมบัติที่สำคัญของฉัน คือ
ความตั้งใจและความอดทนหรืออีกตัวอย่างของความตั้งใจและความอดทน ของฉันคือ
เมื่อได้เริ่มทำงานบางอย่างจะลงมือทำมันจนเสร็จสิ้น และยังเป็นคนเข้ากับคนง่าย
สามารถเข้ากันได้กับคนทุกรูปแบบ งานอดิเรกคือการเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์
และอ่านหนังสือ เพราะมีความรู้มากมายอยู่ในนั้น ในอนาคตอยากมีมีงานดี ๆ ที่รายได้แน่นอน
และมีความมั่นคงในชีวิต มีครอบครัว และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นได้จดจำ
ที่เลือกมาสมัครงานกับบริษัทนี้เพราะบริษัทนี้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความมั่นคง
และความปลอดภัย เหมือนกับถ้าคนเราจะลงเรือสักลำ ก็คงต้องเลือกเดินทางไปกับเรือที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย
และมั่นใจขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
กรอกใบสมัครภาษาอังกฤษ
จากการเปิดเสรีอาเซียน ทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมกับการใช้ภาษาอังกฤษ หลายๆบริษัทเริ่มเปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาบังคับ การสมัครงานก็เลยเกิดความยากขึ้นมา แค่ใบสมัครงานก็กลับกลายเป็นภาษาอังกฤษไปเสียแล้ว ไอ้เราคนไทยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ที่ไหน แถมบ้านเมืองก็ไม่เคยถูกใครมาครอบครอง รักษาเอกราชจากฝรั้งได้ตลอด แล้วอยู่ๆจะเขียนภาษาอังกฤษเนี่ยนะ? แค่เขียนชื่อตัวได้ก็ยากแล้วววว วันนี้เลยขอมาแนะนำวิธีการเขียนใบสมัครอย่างง่ายๆกัน
·
มองผ่านๆ มองดูว่าเค้าให้เรากรอกอะไรบ้าง
เค้าเรียงวันเดือนปีหรือปีดเดือนวัน หรือเดือนวันปี (เคยไปที่ๆนึงไม่ขอกล่าว
พลาดกรอกวันกับเดือนสลับกัน ดีว่าวันเกิดกับเดือนเกิดเลขเดียวกัน)
อีกที่ที่สำคัญก็ชื่อกับนามสกุล ให้กรอกแยกหรือกรอกรวม
บางคนไม่ดูให้ดีเห็นที่เหลือก็รีบๆเขียน พอขยับไปอีกหน่อย อ้าวนามสกุลเขียนตรงนี้นี่น่า
= = ลบคนอ่านเค้าก็จะรู้ว่าเรานั้นสะเพร่าไม่อ่านอะไรให้ละอียด
สักแต่เขียนๆ
·
เขียนข้อมูลให้ดูน่าสนใจ สะอาดเรียบร้อย อ่านง่าย
ทำให้คนอ่านเค้าอยากพบเจอหน้าตา
·
ก่อนมาสมัครงานควรคิดคำตอบเผื่อคำถามที่นิยมกันไว้ด้วย เช่น
คุณคิดว่ามีจุดแข็ง จุดอ่อนตรงไหนบ้าง เขียนให้ดูดี แต่ไม่เสแสร้ง
·
หลายคนตกม้าตายกับ Mr. , Mrs., Miss., Ms. เลยขอแนะนำกันหน่อย
o
MR สำหรับผู้ชาย (มีอันเดียวง่ายมาก
แต่เคยเห็นคนเข้าใจผิดใช้ MRS กัน ไม่ใช่นะ)
o
MISS สำหรับสาวที่ยังไม่แต่งงาน
o
MRS สำหรับสาวที่แต่งงานแล้ว
o
MS สำหรับสาวที่ไม่รู้ว่าแต่งงาแล้วหรือยังไม่แต่ง
·
การเขียนชื่อและนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ
ครวเขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
·
ที่อยู่ควรเขียนให้ละเอียด
อย่าลืมศึกษาที่อยู่ของตัวเป็นเป็นภาษาอังกฤษไว้ล่วงหน้าเพื่อความถูกต้องในการกรอกข้อมูล
o
ที่อยู่ปัจจุบันจะใช้ Home Address / Present Residence
o
แต่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านจะใช้
Permanent Address
·
สถานภาพสมรส
หลายคนไม่ทราบว่าจะต้องกรอกอะไรถึงจะถูก ส่วนมากจะรู้ว่า single คืออะไรเลยขอแนะนำคำอื่นกันบ้าง
o Single (โสด)
Married (แต่งงานแล้ว)
Married (แต่งงานแล้ว)
o Widowed (เป็นหม้าย)
o Married with no children (แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร)
o Divorced (หย่า) Separated (แยกทางกัน)
·
ศัพท์อื่นๆสำหรับกรอกประวัติส่วนตัว
o
Birthdate (วัน/เดือน/ปีเกิด) เช่น Jan
1, 1989
o
Birthplace / Native
Place (สถานที่เกิด) ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เช่น Bangkok
o
ID No. (เลขประจำตัวบัตรประชาชน)
เช่น 1 2345 67890 12 3 ทั้ง 13 หลัก
o
Issued at (สถานที่ออกบัตร) เช่น Chatujak, Bangkok
o
Date Issued / Dated (วันที่ออกบัตร) เช่น Jan 12 2008
o
Expiry date / Valid
Until (วันที่บัตรหมดอายุ) เช่น Jan 12 1998
o
Religion (ศาสนา)
เช่น Buddhism (พุทธ) / Islam (อิสลาม)/
Catholic(คอทอลิก) / Protestant (โปรแตสแตนซ์)
o
Taxpayers No. (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี)
Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม)
Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม)
·
สถานภาพทางการทหาร (Military Status)
o
Serving เป็นทหารเกณฑ์
o
Completed ผ่านการเกณฑ์ทหาร
o
Exempted ยกเว้นเพราะ ร.ด.จบหลักสูตร ,จับฉลากได้ใบดำ ,ร่างกายไม่ได้ขนาด หรือกำลังเป็นนักศึกษา
o
State your military
service No Military Service Obligation พ้นภาระทางทหาร
·
ประวัติการศึกษา
o
ประถมศึกษา (Primary)
o
มัธยมศึกษา (Secondary)
o
อาชีวะ (Vocational)
o
วิชาชีพ (Technical)
o
วิทยาลัย (College)
o
มหาวิทยาลัย (University)
·
วุฒิการศึกษา
o
มัธยมศึกษาตอนปลาย (High School Certificate)
o
ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (Certificate of Technical Vocation)
o
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) (Certificate of Vocational Education หรือ Vocational
Certificate)
o
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) (Diploma หรือ High vocational Certificate)
o
ปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ (Bachelor of Science)
o
ปริญญาตรีด้านบัญชี (Bachelor of Accountancy)
o
ปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ (Bachelor of Engineering)
o
ปริญญาตรีด้านอุตสาหกรรมศาสตร์ (Bachelor of Industrial Technology)
o
ปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration)
o
หลังคุณวุฒิการศึกษาควรที่จะใส่สาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษาโดยเติมคำว่า
in หรืออยู่ในวงเล็บ
และ
ตามด้วยสาขาวิชา เช่น
- Auto Mechanics ช่างยนต์
- Machine Shop Mechanics ช่างกลโรงงาน
- Civil Engineering วิศวกรรมโยธา
- Electronics Technology ช่างอิเล็กทรอนิกส์
- Accounting การบัญชี
- Marketing การตลาด
- Finance and Banking การเงินและการธนาคาร
- Computer Science วิทยาการคอมพิวเตอร์
- Industrial Engineering วิศวกรรมอุตสาหการ
ตามด้วยสาขาวิชา เช่น
- Auto Mechanics ช่างยนต์
- Machine Shop Mechanics ช่างกลโรงงาน
- Civil Engineering วิศวกรรมโยธา
- Electronics Technology ช่างอิเล็กทรอนิกส์
- Accounting การบัญชี
- Marketing การตลาด
- Finance and Banking การเงินและการธนาคาร
- Computer Science วิทยาการคอมพิวเตอร์
- Industrial Engineering วิศวกรรมอุตสาหการ
o
ควรกรอกวุฒิการศึกษาสูงสุดก่อนไล่ลงมาต่ำสุดเสมอ
·
การกรอกความสามารถพิเศษ
o
ความสามารถทางภาษา ภาษาต่างประเทศ
- English ภาษาอังกฤษ
- Japanese ภาษาญี่ปุ่น
- Chinese ภาษาจีน
- English ภาษาอังกฤษ
- Japanese ภาษาญี่ปุ่น
- Chinese ภาษาจีน
o
Computer repair and
knowledge of software
ซ่อมคอมพิวเตอร์และมีความรู้เรื่องซอฟต์แวร์
ซ่อมคอมพิวเตอร์และมีความรู้เรื่องซอฟต์แวร์
o
Knowledge of setting up
computer networks
มีความรู้ในการติดตั้งข่ายงานคอมพิวเตอร์
มีความรู้ในการติดตั้งข่ายงานคอมพิวเตอร์
o
Knowledge of CAD and
computer systems
มีความรู้ในการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
มีความรู้ในการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
o
Able to write program
with BASIC, C language
สามารถเขียนโปรแกรมภาษาเบลิคและภาษาซี
สามารถเขียนโปรแกรมภาษาเบลิคและภาษาซี
o
Machine design or
equipment making
การออกแบบเครื่องจักรกลหรือการสร้างอุปกรณ์
การออกแบบเครื่องจักรกลหรือการสร้างอุปกรณ์
o
Practical ability to
operate PC and other OA equipment
มีความสามารถเชิงปฏิบัติในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ
มีความสามารถเชิงปฏิบัติในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ
o
Ability in
troubleshooting, modification and maintenance for electronics measurement equipment
มีความสามารถในการตรวจซ่อม การดัดแปร และการบำรุงรักษาอุปกรณ์การวัดทางอิเล็กทรอนิกส์
มีความสามารถในการตรวจซ่อม การดัดแปร และการบำรุงรักษาอุปกรณ์การวัดทางอิเล็กทรอนิกส์
o
Working knowledge of
computers using spreadsheets and data bases.
มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้แผ่นตารางทำการและฐานข้อมูล
มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้แผ่นตารางทำการและฐานข้อมูล
·
ประสบการณ์การทำงาน (Experience)
o
ตำแหน่งที่ทำงาน (Position) เช่น
- Technician นายช่างเทคนิค
- Foreman หัวหน้าควบคุมงาน
- Junior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ผู้ช่วย)
- Senior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ระดับสูง)
- Supervisor ผู้ควบคุมงาน
- Engineer วิศวกร
- Assistant Engineer ผู้ช่วยวิศวกร
- Inspector ผู้ตรวจสอบ
- Manager ผู้จัดการ
- Technician นายช่างเทคนิค
- Foreman หัวหน้าควบคุมงาน
- Junior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ผู้ช่วย)
- Senior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ระดับสูง)
- Supervisor ผู้ควบคุมงาน
- Engineer วิศวกร
- Assistant Engineer ผู้ช่วยวิศวกร
- Inspector ผู้ตรวจสอบ
- Manager ผู้จัดการ
o
เหตุผลที่ลาออก (Reason
for Leaving) เช่น
- No Progress
- Limited career opportunity ไม่มีความก้าวหน้าในอาชีพ
- Company Discontinued บริษัทเลิกกิจการ
- Unsuitable Position ตำแหน่งไม่เหมาะสม
- Contract Terminated สิ้นสุดสัญญา
- Further Study
- To get higher education หรือ Continue Education เพื่อศึกษาต่อ
- Military Service เพื่อเข้าเป็นทหาร
- Needed Better Job ต้องการงานที่ดีกว่า
- Company Loss บริษัทขาดทุน
- Company Reduced Manpower บริษัทลดพนักงาน
- Temporary Employ เป็นงานชั่วคราว
- No Progress
- Limited career opportunity ไม่มีความก้าวหน้าในอาชีพ
- Company Discontinued บริษัทเลิกกิจการ
- Unsuitable Position ตำแหน่งไม่เหมาะสม
- Contract Terminated สิ้นสุดสัญญา
- Further Study
- To get higher education หรือ Continue Education เพื่อศึกษาต่อ
- Military Service เพื่อเข้าเป็นทหาร
- Needed Better Job ต้องการงานที่ดีกว่า
- Company Loss บริษัทขาดทุน
- Company Reduced Manpower บริษัทลดพนักงาน
- Temporary Employ เป็นงานชั่วคราว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)